รองผู้ว่ากทม.ชี้น้ำท่วมเพราะน้ำไหลลงคลองประปา
เวลาประมาณ 21.00 น. นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าฯ กทม ได้ทวิตเตอร์ข้อความ ผ่านทาง twitter:@Taya Teepsuwan เป็นข้อความต่อเนื่อง ว่า "เนื่องจากมีการระบายน้ำลงคลองประปาอย่างต่อเนื่องซึ่งมิใช่เป็นหลักปฏิบัติในการแก้ไขน้ำท่วม จึงทำให้มีน้ำเอ่อล้นในเขตดอนเมืองและหลักสี่กทม.ขอให้ ศปภ. ลดระดับน้ำลงคลองประปาและปิดไซฟ่อนน้ำที่รังสิต รวมถึงเร่งดำเนินการอุดรอยรั่วตามแนว Barrierเนื่องจากกทม.ต้องระดมทรัพยากรทั้งหมดไปทำคันกั้นน้ำฝั่งตะวันออก,ตะวันตกและทางเหนือ นอกจากนี้คลองประปาเป็นแนวคลองเดียวที่ กทม.ไม่มีอำนาจดูแล ดังนั้นเป็นหน้าที่ของ ศปภในการเข้าดำเนินการดังกล่าว โดยกทม.จะเข้าไปเสริมกำลังเท่าที่ทำได้และได้ทำไปแล้ว คือการใช้เครนไปเปิดประตูระบายน้ำและเร่งระบายน้ำเข้าอุโมงค์มักกะสัน และสถานีสูบน้ำสามเสน แต่ปริมาณน้ำที่ปล่อยมามากเกิน"
หลักสี่ ดอนเมือง ให้ขนของสูงกว่า 1 เมตร
เวลา 22.40 น. ศปภ.ออกประกาศที่ 7 เกรงว่า ที่หลัก 6 จะไม่สามารถรับน้ำไว้ได้ ขอให้ประชาชน ที่อาศัยอยู่ หลักสี่ ดอนเมือง ย้ายของขึ้นที่สูงมากกว่า 1 เมตร ให้เตรียมอุปกรณ์ส่องสว่าง และย้ายรถไปสนามบินสุวรรณภูมิ
สุขุมพันธุ์ เตือนพื้นที่เฝ้าระวังน้ำท่วมเพิ่ม อีก 3 จุด
เมื่อเวลา 19.58 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แถลงข่าวภายหลังการประชุมร่วมกับคณะผู้บริหารของกทม. ถึงปัญหาไหลเข้าท่วมคองประปาเมื่อคืนที่ผ่านมา เดินตนคาดว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ แต่ปรากฎว่าระดับน้ำในคลองประปาไม่ได้ลง ขณะนี้เหมือนกับว่าคลองประปาทำหน้าที่เป็นแนวทางระบบายน้ำจากเหนือลงใต้ หรือคลองประปาเปรียบเป็นเหมือนทำหน้าที่เป็นท่อระบายน้ำไปแล้ว ต่อมาพบว่าบายริเออร์ทั้งสองฝั่งของริมคลองประปา ไม่ได้ซึมอย่างเดียว แต่มีลักษณะรั่วทำให้น้ำได้เข้าท่วมในเขตหลักสี่ และดอนเมือง โดยเฉพาะในเขตหลักสี่ บายริเออร์ได้รั่วตลอดแนว จึงทำให้มีน้ำเข้ามาในพื้นที่ใกล้เคียง จึงเกรงว่าถ้าไม่มีการแก้ไขบายริเออร์ดังกล่าว อาจจะทำเสียหายทั้งหมด จึงทำให้ปริมาณน้ำที่รั่วเข้ามามีปริมาณกว่านี้
กทม.อยากจะเข้าไปช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ แต่ทรัพยากรบุคคลและเครื่องมือต่างๆ ถูกนำไปช่วยในพื้นที่กทม.ฝั่งเหนือ และตะวันออก โดยเฉพาะที่เขตสายไหม ที่จะเร่งสร้างคันแนวกั้นน้ำริมแนวคลองหกวาให้เสร็จภายในคืนนี้ กทม.จึงไม่สามารถไปช่วยประชาชนในสองเขตนี้ได้โดยเร็ว จึงได้ประสานไปยังศปภ.ให้พยายามลดระดับน้ำในคลองประปา ด้วยการปิดไซฟ่อนที่รังสิต และให้ศปภ.รับภาระดูแลพื้นที่หลักสี่และดอนเมือง เพราะปัญหาที่เกิดขึ้น เป็นผลสืบเนื่องมาจากคลองประปา เพราะคลองประปาถือว่าเป็นจุดเดียว ที่กทม.ไม่สามารถเข้าไปสร้างแนวป้องกันน้ำท่วมได้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่ทางกทม.จะเข้าไปซ่อมบายริเออร์ที่เสียหาย เพราะเป็นพื้นที่ของการประปานครหลวง จึงขอให้ทางศปภ.เข้าไปดำเนินการซ่อมแซมด้วย
ทั้งนี้กทม.ขอประกาศแจ้งเตือนว่ามีพื้นที่ที่จะมีการเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมเพิ่มเติม อีก 3 จุด ประกอบด้วย 1. แขวงทุ่งสีกัน 2.แขวงดอนเมือง ในเเขตดอนเมือง และ 3.แขวงทุ่งสองห้อง ในเขตหลักสี่ พร้อมทั้งให้มีการเพิ่มศูนย์อพยพในพื้นที่ทั้งสองเขต ประกอบด้วย เขตดอนเมือง 6 แห่ง เขตหลักสี่ 5 แห่ง ซึ่งการแจ้งเตือนครั้งนี้ ถือว่าเข้มข้นกว่าการประกาศเตือนพื้นที่เฝ้าระวังใน 7 เขตแรก เพราะมีการเตรียมอพยพเข้ามาด้วย โดยขณะนี้ทางศปภ.ก็ยังไม่ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปซ่อมแซม จึงเกรงว่าระดับน้ำที่รั่วซึมเข้าไปในพื้นที่อาจจะมีระดับที่เพิ่มสูงขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนที่อยู่ในสามแขวงดังกล่าว ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากไม่มั่นใจก็สามารถเดินทางเข้าไปที่ศูนย์อพยพได้ทันที
" จุดรั่วที่อยู่เป็นพื้นที่ของกปน. กทม.ไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ ซึ่งผมได้ประสานไปยังรัฐบาลให้เข้าไปดูแลแล้ว หากน้ำที่มีการรั่วซึมออกมา อาจจะได้รับผลกระทบกับประชาชนก็สามารถเตรียมการอพยพได้ทันที ซึ่งในขณะนี้ก็ยังพบว่ามีการรั่วซึมอยู่ ด้วยเหตุผลทั้งหมดกทม.จึงขอให้ศปภ.ช่วยรับผิดชอบด้วย"
"กปน."เผยปริมาณน้ำใช้ผลิตประปาให้บริการปชช.ได้ตามปกติ
กปน.เผยปริมาณน้ำใช้ผลิตประปาให้บริการปชช.ได้ตามปกติ ยันป้องน้ำเอ่อล้นแล้ว ชี้มีการตรวจเช็คคุณภาพน้ำตลอด
นายเจริญ ภัสระ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ได้แถงข่าวยืนยันว่า การให้บริการน้ำประปาในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล จะไม่ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์ที่เกิดอุทกภัยน้ำจากคลองบางหลวงเชียงรากไหลเข้าคลองประปาช่วงท่อลอดพื้นที่คลองบางหลวง โดย กปน. ได้ระดมคนงานอาสมัครมาช่วยนำกระสอบทรายนำไปกั้นในบริเวณที่มีน้ำล้นเป็นช่วงประมาณ 20 เมตรจากแนวคลองประปามีความยาวประมาณ 32 กิโลเมตร ซึ่งได้ปิดประตูน้ำในท่อลอดไปแล้ว 4 ช่องทางเหลืออีก 3 ช่องกำลังดำเนินการปิดต่อ นอกจากนี้ได้มีการประสานไปยังผู้อำนวยการสำนักระบายน้ำของ กทม. หากมีปริมาณน้ำเกินมากกว่าที่ต้องการผลิตให้ช่วยผันน้ำออกไปทางคลองสามเสน โดยยอมรับว่า กปน.ยังมีข้อห่วงใยเรื่องแนวกั้น ปัญหาที่ต้องไปดูแลเป็นพิเศษในแนวคลองรังสิตด้านใต้ แต่มั่นใจว่า เราจะไม่ให้มีน้ำเออล้นเข้ามาในคลองประปาได้อีก
“กปน.เคยมีประสบการณ์มาแล้วในปี 38 ขอยืนยันคุณภาพน้ำดิบที่จะนำไปผลิตให้กับประชาชนเพียงพอ เราได้แก้ไขเติมผงถ่านผงถ่านกัมมันต์เพื่อดูดซับสารพิษ โลหะหนัก แล้วเพิ่มจุดเติมอากาศเพื่อบำบัดน้ำก่อนส่งเข้าสู่โรงงานผลิตน้ำก่อนจ่ายให้ประชาชนนำไปใช้ ให้จะสังเกตว่า น้ำประปาในช่วงนี้อาจจะมีกลิ่นคลอรีนมากกว่าปกติ ” ผู้ว่าฯ กปน. กล่าว
ด้านนายวิสิทธิ์ วงศ์วิวัฒน์ รองผู้ว่าการ กปน. ด้านผลิตและส่งน้ำ กล่าวว่า แหล่งน้ำที่นำมาผลิตประปามี 2 แหล่งจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำแม่กลอง เราขอยืนยันก่อนการผลิตจะมีการตรวจวัดคุณภาพน้ำทุกครั้ง เน้นระวังไม่ให้มีเชื้อโรคเข้าปะปน ทั้งนี้ในการผลิตน้ำประปายังคงมีการผลิตต่อไปได้เป็นปกติอย่างแน่นอน
"ยิ่งลักษณ์"ตรวจสถานการณ์คลองหกวา
ยิ่งลักษณ์ดอดตรวจสถานการณ์คลองหกวา พร้อมให้กำลังปชช.ช่วยบรรจุทรายสร้างคันกั้นน้ำ
เวลา 20.50 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมาบริเวณจุดบรรจุกระสบแอทรายทำกั้นกั้นน้ำ บริเวณรร.ฤทธิยะวรรณ 2 เขตสายไหม เพื่อเยี่ยมเยือน และให้กำลังใจ กับประชาชนที่ร่วมแรงใจกันช่วยกันบรรจุสอบทรายกันเป็นจำนวน โดย การเดินทางมาของนายกฯในครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก โดยทั้งหมดรุมถ่ายรูป และตะโกนให้กำลังใจนายกฯ อย่างไรก็ตามในการเดินทางมาของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ช่วยตัดบรรจุถุงด้ว จากนั้นนายกฯ ได้เดินทางมายังประตูระบายน้ำคลอง ซึ่งอยู่ในบริเวณต้นถ.สายไหม โดยมีน.ส.นงค์พะงา บุษปักษ์ ผอ.เขตสายไหม เป็นผู้ให้การต้อน และกล่าวบรรยาสรุปถึงสถานการณ์ และความคืบหน้าของการวางแนวกระสอบทรายริมคลองหกวา โดยในการเดินทางมาในครั้งนี้ได้เวลาเพียงครึ่งชั่วโมง ก็เดินทางกลับ
ผู้อำนวยกสนเขตสายไหม กล่าวว่า รายงานนายกฯ ถึงมาตรการในการรับมือ ที่ทางกทม.ได้วางไว้ คือ การทำแนวกั้นน้ำตลอดริมคลองหกวาให้สูงกว่าระดับน้ำทะเล ในระดับ 3.5 เมตร ซึ่งเท่ากับเราจะต้องสร้างกระสอบทรายให้มีความสูง 1.5 เมตร และกว้างประมาณ 1 เมตร ส่วนประตูระบายน้ำในคลองสองนั้น ในขณะนี้มีระดับความสูงเฉลี่ย 2.4 เมตร ซึ่งเขตสายไหม ก็ได้ทะยอยปล่อยน้ำออกในระดับ ทั้งทางเขตสายไหมจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องไม่ให้พื้นที่ต้องถูกน้ำท่วม แม้ว่าจะเป็นพื้นที่เสี่ยง
ศปภ.เผย เตรียมประสานภาครัฐหาที่จอดรถ
นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา โฆษก ศปภ. กล่าวว่า ขณะนี้ทางศปภ ได้ประสานไปยังหน่วยราชการ และเอกชน เพื่อหาสถานที่จอดรถให้กับประชาชน เพื่อจัดสรรพื้นที่ให้ประชาชนได้นำรถไปจอดได้แทนการนำไปจอดบนสะพานข้ามแยกและทางด่วน โดยสถานที่จอดจะมีทั้งในส่วนของสุวรรณภูมิโดยรอบสามารถจอดได้ สามพันคัน บางนาตราดจอดได้สองพันห้าร้อยคัน ถนนสายสี่จอดได้หกร้อยคัน อีกทั้งยังมีพื้นที่ของโรงเรียนนายเรืออากาศและโรงเรียนนายเรือ จุดละสองพันคัน รวมทั้งหมดแล้วประชาชนน่าจะจอดรถได้เจ็ดพันคัน ทั้งนี้ยังมีการประสานให้รถ บขส. และขสมก. มารับส่งจากจุดจอดรถเพื่อเข้ามาเขตเมือง
[หลุดนิด] นิคมบางกะดีแตกแล้ว ท่วมเต็มพื้นที่ 47 โรงงาน
เวลา 20.30 น. แนวกั้นน้ำในนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี ต.บางกะดี อ.เมือง จ.ปทุมธานี ด้านติดคลองประปานคร นำได้เอ่อล้นข้ามแนวคันกั้นน้ำของนิคมอุตสาหกรรมบางกะดี และไหลเข้าท่วมโรงงานเต็มพื้นที่จำนวน 47 โรงงาน ส่วนแนวคันกั้นน้ำแตกนั้นสาเหตุมาจากน้ำในคลองประปาได้เพิ่มระดับสูงมากทำให้น้ำไหลข้ามคันกั้นอย่างรวดเร็วเป็นเหตุน้ำกัดเซาะคันจึงแตกเป็นแนวยาว ทางเจ้าหน้าที่โครงการได้เร่งเสริมคันกั้นน้ำแต่การกั้นน้ำไม่อยู่ทำให้แรงดันน้ำพัดพาปะทะเสาไฟหักไป 7 ต้น คนงานไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากโรงงานได้ปิดไปก่อนหน้านี้แล้วจะเหลือแต่คนงานที่คอยเสริมแนวคันกั้นน้ำกว่า 20 คน.
นายธวัชชัย อึ้งอัมพรวิไล นายกเทศบาลตำบลบางกะดี กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุ กำลังขับรถออกจากจุดคันกั้นน้ำแตก จึงขับรถหนีออกมาตามถนนสายหลักในนิคมฯและพบเห็นเสาไฟเอนกำลังจะหักโค่นลงมาจึงขับรถหนีตั้งแต่ต้นที่ 2 จนถึงต้นที่ 7 ที่เสาไฟหักโค่นลง
ขอขอบคุณ http://breakingnews.nationchannel.com